กลไกขับเคลื่อนรูปแบบใหม่เพื่อการเติบโตในสังคมเครือข่ายดิจิทัล

พลิกการเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาส เสริมศักยภาพสู่การเติบโตในประเทศไทยในยุคดิจิทัล

จากรายงานข้อมูลทางธุรกิจ Ericsson Mobility Report ของอีริคสัน ทำให้เราทราบว่าเทคโนโลยี 5กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและจะมีการลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 500 ล้านครั้งทั่วโลกภายในปี ค.ศ. 2022 ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ในอนาคตทั้งสำหรับผู้คนทั่วไป นักธุรกิจ และสังคมโดยรวม 

 

เทคโนโลยี 5คือพื้นฐานของการสร้างศักยภาพสูงสุดของสังคมที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ซึ่งเครือข่าย 5G นี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรุกสู่ตลาดละสร้างรายรับรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง โดผ่านการใช้โมเดลธุรกิจและผู้ใช้งานระบบรูปแบบใหม่ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงแอพพลิเคชั่นการบริหารสรรพสิ่งด้วยอินเตอร์เน็ต (Internet of Things: IoTโดยความสามารถในการทำงานของเทคโนโลยี 5นั้นครอบคลุมคุณสมบัติหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นในการทำงานอันยอดเยี่ยม การใช้พลังงานน้อยกว่า สมรรถนะการทำงานสูงขึ้น เสริมสร้างสมรถภาพด้านความปลอดภัย และอัตราการใช้ข้อมูล ทั้งยังมีความหน่วงสัญญาณและต้นทุนอุปกรณ์ที่ต่ำลง

 

เครือข่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นแรก (1Gจะทำงานเฉพาะเรื่องเสียงเท่านั้น เครือข่ายรุ่น 2G ทำงานกับเสียงและข้อความ เครือข่าย 3คือเสียง ข้อความ และข้อมูล ส่วนเครือข่าย 4ทำงานเหมือนกับ 3ทุกประการแต่เร็วกว่าหากสำหรับเครือข่าย 5G นั้น จะเป็นสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

 

สิ่งที่เราจะได้รับจากเครือข่าย 5

• อัตราความเร็วของการส่งผ่านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า: มีการเข้าถึงบริการและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
• ความรวดเร็วของการตอบสนองในการใช้งานบนเครือข่ายเพิ่มขึ้น 5 เท่า: เช่น กรณีการใช้งานของระบบการขนส่งอัจฉริยะและระบบควบคุมเครื่องจักรจากระยะไกล
• ปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านบนโทรศัพท์มือถือขยายถึง 1,000 เท่า
• ความสามารถของการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นได้ในระยะเวลายาวนานเพิ่มขึ้น 10 เท่า: โดยเฉพาะอุปกรณ์เก็บข้อมูลระยะไกล (Remote Sensor) ที่ต้องทำงานด้วยระบบแบตเตอรี่และเครือข่ายที่ยากต่อการดูแลรักษา (Sustainable Networks)    

 


การเปลี่ยนเข้าสู่เครือข่าย 5มีวิวัฒนาการเช่นเดียวกับการเปลี่ยนจากเครือข่าย 2ไปสู่ 3แต่การเปลี่ยนเข้าสู่เครือข่าย 5จะมีการเพิ่มองค์ประกอบใหม่อีกหนึ่งอย่างนั่นก็คือ อินเตอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม และเช่นเดียวกับการเปลี่ยนเข้าสู่เครือข่าย 4โดยในเครือข่าย 5จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือล้ำกว่ามากเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน แล้วยังมีสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากนั้นด้วยคือในเครือข่าย 5G เราจะได้เห็นการเชื่อมต่อเสมือนเป็นบริการบนพื้นฐานของเครือข่ายแยกส่วน โดย 5G จะช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมซื้อขายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้นในการใช้อุปกรณ์เพื่อการบริหารสรรพสิ่งด้วยอินเตอร์เน็ต (IoT) โดยสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นถึง 10 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ประโยชน์เหล่านี้จะนำมาซึ่งโอกาสของผู้ใช้งานระบบรูปแบบใหม่ที่เราไม่คาดฝัน รวมถึงการเข้าถึงตลาดใหม่ และการใช้โมเดลธุรกิจใหม่หมดตั้งแต่องค์ประกอบพื้นฐาน

 

สิ่งที่ผู้บริโภคสามารถคาดหวังได้จากเทคโนโลยี 5G

การเข้าถึงบรอดแบรนด์และสื่อได้ในทุกสถานที่

ด้วยเทคโนโลยี 5G ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าถึงเครือข่ายบรอดแบรนด์ได้ในพื้นที่ๆ มีผู้คนหนาแน่น อาทิ งานคอนเสิร์ต รายการกีฬา และเทศกาลต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในเรื่องความจุ อินเตอร์เฟซ และความเชื่อถือได้ในการทำงานของอุปกรณ์ ผู้ใช้งานเครือข่าย 5G ยังจะได้เพลิดเพลินกับภาพยนตร์ความละเอียดระดับ 4K ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ภายในไม่กี่วินาทีโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ในขณะที่การชมรายการโทรทัศน์และรายการกีฬาถ่ายทอดสดจะกลายเป็นประสบการณ์การรับชมที่ดื่มด่ำและสมจริงราวกับคุณกำลังอยู่ในเหตุการณ์จริง สำหรับผู้บริโภคทั่วไป เครือข่าย 5G จะขยายประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทั้งภายในและภายนอกอาคารให้ถึงขีดสุด และนำเสนอบรอดแบรนด์ที่มีการบริหารเครือข่ายคุณภาพสูงแม้เครือข่ายจะอยู่ภายใต้สภาวะที่ยากต่อการทำงานเพียงใดก็ตาม  

 

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรอุปกรณ์

ประสิทธิภาพการทำงานระดับสูงของเครือข่าย 5G จะทำให้เราสามารถเข้าถึงการบริหารสรรพสิ่งด้วยอินเตอร์เน็ต (IoT) ได้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านการปรับปรุงด้านการรับรู้ต่อเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้คน

 

การควบคุมอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่ออันตราย

เครือข่าย 5G จะทำให้เราสามารถควบคุมเครื่องจักรขนาดใหญ่จากระยะไกลได้ ซึงถือเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ อีกมากมาย อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและลดต้นทุนหรือความเสี่ยงในการปฏิบัติงานในสภาวะที่เสี่ยงอันตราย

 

เครือข่ายการตรวจจับ

เทคโนโลยี 5G จะขยายโอกาสทางธุรกิจและโมเดลธุรกิจผ่านกระบวนการตรวจจับ การติดตาม และความสามารถในการทำงานแบบอัตโนมัติในงานขนาดใหญ่ ด้วยการเชื่อมโยงพื้นที่เพาะปลูกและเกษตรกรรมสู่เมืองและอาคารอัจฉริยะ ทำให้เทคโนโลยี 5สามารถลดต้นทุน ปรับปรุงประสิทธิภาพ และส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ในรูปแบบที่น่าอัศจรรย์

 

ยานพาหนะและการขนส่งระบบอัจฉริยะ

การเคลื่อนเข้าสู่ยุค 5จะนำไปสู่การสื่อสารระหว่างเครื่องจักรจำนวนมหาศาล ซึ่งจะช่วยให้เมืองต่างๆ อีกทั้งระบบขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เกิดการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อยกระดับการบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น 

 

บริการสำคัญและการควบคุมสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ความเชื่อถือได้ในระดับสูงและความหน่วงที่ต่ำ(Low Latencyของเทคโนโลยี 5G จะช่วยปลดล็อคความสามารถในการควบคุมบริการที่มีความสำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน อันจะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ต่อความปลอดภัยสาธารณะ รัฐบาล การบริหารจัดการเมือง และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค

 

ความสำคัญของเครือข่าย 5ต่อผู้ดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

สืบเนื่องจากรายงานธุรกิจเมื่อเร็วๆ นี้ของอีริคสัน "Opportunities in 5G: The view from eight industries" ระบุว่า

● ร้อยละ 92 ของผู้บริหารจากผู้ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคม 100 ราย เห็นพ้องว่า เครือข่าย 5G จะปูทางสู่การอุบัติของเทคโนโลยีรูปแบบใหม่อีกมากมาย
● ร้อยละ 94 ของผู้บริหารจาก 8 อุสาหกรรมหลัก จัดอันดับให้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในเชิงกลยุทธ์
● มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมที่ประกาศแผน 5เลือกทำงานกับอีริคสันมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่น

อีริคสันทำให้นวัตกรรม 5G กลายเป็นความจริงด้วยการวางระบบนิเวศ 5G ระดับโลกที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับการสร้างความเจริญเติบโตที่รวดเร็ว การนำนวัตกรรมที่ทำงานบนระบบ 5ที่ดีที่สุดสู่โลกแห่งความเป็นจริง และการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การทำงานในยุค 5G อย่างประสบความสำเร็จ 

 

ปัจจุบัน อีริคสันมีข้อตกลงความร่วมมือกับผู้ดำเนินธุรกิจโทรคมนาคม 27 ฉบับ พันธมิตรอุตสาหกรรม 12 ราย พันธมิตรกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5Gมากกว่า 20 แห่งทั่วโลก ซึ่งถือว่าอีริคสันมีพันธมิตรในธุรกิจ 5G มากกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ และมีหุ้นส่วนพันธมิตรกับอุตสาหกรรมรายใหญ่ทั้งกับ ABB, SKF, Boliden, Volvo, Zucchetti, BMW และอีกมากมาย

 

การสาธิตเทคโนโลยี 5G

ระบบทดสอบ 5G ของอีริคสัน

แนวคิดระบบทดสอบ 5G ของอีริคสัน ได้รับการออกแบบเพื่อสนับสนุนการทดลองใช้งานเต็มรูปแบบและไม่ใช่การสาธิตในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ทั้งยังรวมถึงการสนับสนุนการทำงานต่างๆ บนระบบ 5G อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณแบบ Beamforming และการติดตามสัญญาณ, เทคนิค Multi-user MIMO, การส่งผ่านสัญญาณแบบหลายพื้นที่, เทคโนโลยีแบบUltra-lean design, dynamic TDD และอื่นๆ โดยแนวคิดนี้ครอบคลุมการทำงานทั้งหมด ตัวอย่างเช่น สัญญาณอ้างอิงและรายงานผลตอบรับ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรบการทดลองใช้งานก่อนนำไปใช้จริงในเชิงพาณิชย์ แผนงานนี้จะช่วยให้ระบบการปฏิบัติงาน 5G ในช่วงก่อนใช้ในเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบครั้งแรกนี้ มีความพร้อมสำหรับการทดลองใช้งานทั้งสำหรับผู้บริโภคและหุ้นส่วนทั่วโลก 

 

วีดีโอความหน่วงต่ำ(Low Latencyเพื่อการสาธิตระบบ 5G

วีดีโอจะแสดงให้เห็นถึงความหน่วงต่ำของระบบ 5G เพื่อการสนับสนุนวีดีโอแบบเรียลไทม์เกือบทุกรูปแบบ โดยบอกเล่าเรื่องราวการประยุกต์ใช้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ระยะไกลของผู้บริโภค รวมถึงการใช้งานในวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันการสาธิตนี้ทำได้โดยการเชื่อมต่อผ่านสายสัญญาณเท่านั้นและใช้เฉพาะในวงการแพทย์ การเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย และเครื่องจักรหนัก แต่ในวันนี้สามารถทำได้แบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี 5G

 

อีริคสัน แอร์ 6468 – วิทยุแบบ NR Radio ระบบ 5G ครั้แรกของโลก

อีริคสัน แอร์ 6468 (Ericsson AIR 6468) ใช้ตัวส่งสัญญาณ 64 ตัวและเสาอากาศ 64 เสา ซึ่งสนับสนุนปลั๊กอินส์ระบบ 5ทั้งสำหรับเทคโนโลยี Massive MIMO และ Multi-User MIMO โดยจะช่วยให้เทคนิคสัญญาณ Beamforming ประสิทธิภาพสูงซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยี Massive MIMO สามารถทำงานได้โดยอาศัยสถาปัตยกรรม Cloud RAN แบบแยกส่วน ทำให้ระบบวิทยุรุ่นใหม่นี้มีความฉลาดและมีความสามารถในการลดหรือขยายขอบเขตได้ตามต้องการ อีริคสัน แอร์ 6468 ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้บนมาตรฐาน 5G NR และยังสนับสนุนคลื่นระ

ความคิดเห็น