เดลล์ เปิดตัว Dell Data Protection และ Secure Lifecycle ระบบปกป้องข้อมูลแบบเน็กซ์เจนฯ สำหรับวงจรชีวิตข้อมูลทั้งหมด


 

• รักษาความปลอดภัยของเอกสารสำคัญทางธุรกิจและยังคงปกป้องข้อมูลตลอดไปจากทุกอุปกรณ์ที่ข้อมูลได้ผ่านไป
• ให้อำนาจฝ่ายไอทีในการออกกฏการป้องกันข้อมูลรั่วไหล ให้ระบบจัดการสิทธิ์ทางดิจิทัล และสอดส่องดูแลการเข้าถึงไฟล์งาน
• ขยายขีดความสามารถขององค์กรธุรกิจในการบริหารการเข้าถึงข้อมูลจากที่ไหน อย่างไร พร้อมให้ความสามารถในการควบคุมตามนโยบายปลีกย่อยได้

 

เดลล์ อิงค์ ประกาศเปิดตัวโซลูชันปกป้องข้อมูลแบบเน็กซ์เจนฯ Dell Data Protection | Secure Lifecycle  เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลให้ปลอดภัยไม่ว่าจะเดินทางอยู่ที่ไหนก็ตาม โดย Secure Lifecycle เป็นโซลูชันล่าสุดที่เข้ามาเสริมทัพสายผลิตภัณฑ์ด้านโซลูชันเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลของเดลล์ (Dell Data Security Solutions) โดยช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญทางธุรกิจตลอดทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตการใช้ข้อมูล ไม่ว่าจะช่วงพักการใช้งาน ในการส่งผ่าน และระหว่างที่มีการใช้งาน ไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ภายในหรือภายนอกเครือข่ายก็ตาม นอกจากนี้ ยังให้ความสามารถในการกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลได้ในระดับปลีกย่อย ช่วยให้ผู้นำด้านไอทีมีอำนาจในการจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์ส่วนบุคคล โดยให้เข้าถึงได้เฉพาะ “คนที่จำเป็นต้องทราบ” เท่านั้น

 

Secure Lifecycle ผสานฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลายรวมไว้ในโซลูชัน ได้แก่ การเข้ารหัสข้อมูล การสอดส่องดูแลการเข้าถึงไฟล์ (File Monitoring) การป้องกันข้อมูลรั่วไหล (DLP – Data Leakage Prevention) และ การบริหารจัดการสิทธิ์ทางดิจิทัล (DRM – Digital Rights Management) เพื่อให้การปกป้องข้อมูลผ่านระบบควบคุมระบบเดียว โดยโซลูชันที่มีอยู่ในตลาดตอบโจทย์เพียงแค่เรื่ององค์ประกอบของการรักษาความปลอดภัยข้อมูล แต่ไม่สามารถปกป้องในเวลาที่ข้อมูลออกจากสภาพแวดล้อมขององค์กรไปแล้ว ในบรรดาความสามารถที่สำคัญที่สุด ก็คือเรื่องความสามารถในการมองเห็นความเคลื่อนไหวของข้อมูล ไม่ว่าจะถูกย้ายหรือส่งผ่านไปไหนก็ตาม โดยให้การปกป้องครอบคลุมหลายส่วนทั้งตัวอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ รักษาความปลอดภัยของไฟล์ที่อยู่บนอุปกรณ์จัดเก็บประเภท External Storage เช่น USB และบริการ      พับบลิคคลาวด์หลักๆ รวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งบน iOS และ Android ผ่านอุปกรณ์จัดเก็บไฟล์ที่ปลอดภัย

 

“ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบใหม่ ข้อมูลเดินทางไปมาระหว่างคนกับอุปกรณ์ การเข้ารหัสและการรักษาความปลอดภัยข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่เฉพาะในเวลาที่ข้อมูลหยุดนิ่งไม่มีการใช้งาน แต่ต้องรักษาความปลอดภัยในขณะที่ข้อมูลมีการเคลื่อนไหว และในระหว่างการใช้งานด้วยเช่นกัน เรื่องนี้นับเป็นเรื่องสำคัญในการควบคุมและดูแลรักษาในภาพรวม” เบร็ท แฮนเซ็น       รองประธาน Dell Endpoint Data Security and Management กล่าว “Dell Data Protection | Secure Lifecycle ให้การปกป้องข้อมูลในทุกระดับของช่วงวงจรชีวิตและให้ความสามารถในการดูแลสอดส่องรวมถึงให้ความเชื่อมั่นสำหรับองค์กรที่สนับสนุนการทำงานผ่านโมบายได้อย่างปลอดภัย”

 

องค์กรส่วนใหญ่ในปัจจุบันตระหนักดีถึงความสำคัญของโปรแกรมที่ให้ความแข็งแกร่งในการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์  แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์กรที่ต้องพยายามอย่างมากในการทำให้สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่อยู่ภายนอกกำลังเข้าถึงข้อมูลตัวเองจากที่ไหนและบ่อยแค่ไหน อีกทั้งต้องเข้าใจว่านโยบายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจไปจำกัดเรื่องของผลิตผลในการทำงานหรืออาจเปิดไปสู่ภัยคุกคามได้อย่างไรบ้าง  โดยเฉลี่ยบริษัททั่วไปมักจะมีผู้จำหน่ายจากภายนอกจำนวนสูงถึง 89 รายแอกเซสเข้ามาที่เครือข่ายของบริษัทในแต่ละสัปดาห์ และการแอกเซสจากภายนอกแต่ละครั้งก็เป็นการนำความเสี่ยงมาสู่ข้อมูลที่ไม่ได้มีการปกป้องที่ดีพอ  นอกจากนี้ ผลการสำรวจด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของเดลล์ (Dell Data Security Survey)  ยังแสดงให้เห็นว่า 80 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรขนาดกลางมีความกังวลเกี่ยวกับการอัพโหลดไฟล์ขึ้นไปที่แพลตฟอร์มพับบลิคคลาวด์ที่รู้จักกันดี

 

Dell Data Protection | Secure Lifecycle ช่วยยกระดับเรื่องของการเข้ารหัสได้เหนือชั้นขึ้นไปอีก ซึ่งตอบโจทย์โลกความเป็นจริงของสถานที่ทำงานสมัยใหม่ โดยให้ความสามารถต่อไปนี้

 

• ให้ความสามารถด้านการมองเห็นอย่างเต็มรูปแบบ องค์กรธุรกิจสามารถเข้าใจถึงการใช้งานข้อมูลสำคัญทางธุรกิจว่ามีการนำไปใช้อย่างไรและใช้ที่ไหนบ้าง รั่วไหลหรือสูญหายอย่างไร  ส่วนแผนกไอทีก็สามารถเข้าถึงรายงานและข้อมูลเมตะดาต้าที่ซับซ้อนเพื่อวิเคราะห์วิจัยข้อมูลจากหลายสมมุติฐานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นหากเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขึ้นและรู้เวลาที่เกิด แผงควบคุมหรือ console จะให้ความสามารถในการมองเห็นไฟล์อื่นๆ ที่มีการแชร์ไปยังผู้ที่อาจเป็นผู้ประสงค์ร้าย และพนักงานคนไหนที่เป็นคนแชร์ ช่วยลดเวลาในการติดตามเกี่ยวกับการฝ่าฝืนที่เกิดขึ้น
• ควบคุมนโยบายในระดับปลีกย่อย  ด้วยฟังก์ชั่นในการจัดการสิทธิ์ทางดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฝ่ายไอทีจึงสามารถบริหารจัดการข้อมูลที่ลงในระดับปลีกย่อยได้มากขึ้น เพื่อให้ควบคุมการใช้งานเอกสารได้ดียิ่งขึ้น ว่ามีการเรียกดูเอกสารอย่างไรและสามารถมอบสิทธิ์ส่วนบุคคลในการดูเอกสารเดียวกันให้กับผู้ใช้ต่างกันได้  ความสามารถด้านนี้จะช่วยให้องค์กรธุรกิจบริหารจัดการได้อย่างชัดเจนว่าใครสามารถอ่านข้อมูลใดได้ ใครแก้ข้อมูลได้ พิมพ์ได้ หรือแชร์ข้อมูลได้ รวมถึงการกำหนดช่วงเวลาที่ห้ามดูข้อมูลก่อนรวมถึงช่วงเวลาสิ้นสุดการอนุญาติให้ดูข้อมูลได้  แผงควบคุมในการบริหารจัดการนี้ ยังช่วยให้สามารถยกเลิกสิทธิ์ และไม่อนุญาติให้บางคนเปิดไฟล์ได้ในทันทีที่ต้องการ
• ให้การปกป้องไฟล์ Microsoft Office ด้วยนโยบายการเข้ารหัสที่โปร่งใส จึงช่วยปกป้องข้อมูลที่มีการใช้งานผ่านพีซี สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์แท็บเล็ต  ในขณะเดียวกัน ข้อมูลที่แชร์ก็จะปลอดภัยในเวลาที่แชร์ผ่านเครื่องมือประสานการทำงานร่วมกันซึ่งใช้กันอยู่ทั่วไปเช่น Box และ Dropbox  โซลูชันดังกล่าวจะให้ความมั่นใจได้ว่าไฟล์งานทั้งหมดไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเอกสาร Word, Excel และ PowerPoint จะได้รับการเข้ารหัสอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะอยู่ระหว่างการส่งผ่าน และอยู่ในระหว่างการใช้งาน ช่วยให้ข้อมูลที่มีค่าที่สุดขององค์กรธุรกิจมีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
• ใช้งานผ่านอุปกรณ์ทุกรูปแบบได้อย่างง่ายดาย โซลูชันดังกล่าวช่วยให้พนักงานดาวน์โหลดระบบปกป้องโมบายจาก App Store ได้อย่างปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถของแผนกไอทีเรื่องการบริหารจัดการ นอกจากนี้ ยังมีระบบปลั๊ก-อินสำหรับออฟฟิศ ที่ทำงานบน Microsoft Office 2010 และเวอร์ชั่นสูงกว่านั้นได้อย่างรื่นไหล ช่วยปรับปรุงเรื่องการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างเพื่อนร่วมงานที่อยู่นอกองค์กรได้ดียิ่งขึ้น

ความคิดเห็น