โตชิบา เล่งกู้วิกฤต หลังเปิดตัวผู้บริหารใหม่ พร้อมชูแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนตลาดนอก

ผลประกอบการช่วง เม.ย.-มิ.ย.ของ "โตชิบา" ลดลงถึง 91 ล้านเหรียญสหรัฐจากยอดขายทีวีและคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้รายได้รวมอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.ปี 2012 และต้องถูกปรับจากตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นอีก 7.56 แสนเหรียญสหรัฐในข้อหาตกแต่งบัญชี

นี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่กดดันไปยัง "มาซาชิ มุโรมาจิ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน บริษัทโตชิบาคนปัจจุบัน ซึ่งเข้ามารับหน้าที่ฟื้นฟูบริษัท หลัง "ฮิซาโอะ ทานากะ" ประธานคนก่อนซึ่ง ลาออกเมื่อเดือน ก.ค. ด้วยความรับผิดชอบเรื่องการตกแต่งบัญชี ต้องแสดงความชัดเจนของแผนการเร่งเดินหน้าแผนปฏิรูปบริษัทอย่างเร่งด่วน ที่ประกาศไว้หลังเข้ารับตำแหน่ง

"มาซาชิ มุโรมาจิ" เผยว่า บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อเสริมความแข็งแกร่งหรือรวมศูนย์ฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาเปิดตัวสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆที่ล่าช้ากว่าคู่แข่งมากส่งผลให้ตามคู่แข่งอยู่

ส่วนตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ ในญี่ปุ่นเองก็จะอยู่ในวิสัยที่ต้องถูกเปลี่ยนแปลงเช่นกันโดยบริษัทอาจจะต้องถอนตัวออกจากบางตลาดเพื่อลดความเสียหายจากการแข่งขันกับแบรนด์จีนและไต้หวัน ที่มีจุดขายเรื่องราคาที่ต่ำกว่าซึ่งแย่งส่วนแบ่งตลาดไปอย่างเนืองๆ

ทีมบริหารใหม่ของโตชิบา ที่นำบุคคลนอกมาดำเนินงานให้ปฏิบัติตามแผนหลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 31 ก.ย.นี้

ด้าน"มาซาชิ มุโรมาจิ" เผยว่าในแผนปฏิรูปที่ตนกำลังร่างนั้นจะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่นอกจากจะรุนแรงแล้วยังครอบคลุมทุกซอกมุมของบริษัทโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆโดยจะมีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ต.ค. หรือต้นเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ พร้อมอาจจะเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการในปี งบฯ 2015-2016 

ล่าสุดสำนักข่าว "นิกเคอิ เอเชีย รีวิว" รายงานว่า โตชิบาได้แสดงท่าทีเกี่ยวกับแผนปฏิรูปที่ชัดเจนขึ้นแล้ว โดยจัดระเบียบเครือข่ายโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ใน 3 ประเทศ คือ จีน อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปบริษัทครั้งใหญ่เพื่อฟื้นฟูทั้งกิจการ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ไม่ให้ถูกถอนชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์

ด้านนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า แผนการที่จะประกาศในเดือน ต.ค.- พ.ย.นี้น่าจะมีการตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในส่วนของธุรกิจทีวีและคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ดี ซีอีโอโตชิบาคนปัจจุบันยืนยันหนักแน่นว่าตนเองจะลงจากตำแหน่งทันทีที่บริษัทสามารถก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปได้และพร้อมเติบโตอีกครั้ง

"ผมจะเป็นเพียงผู้วางรากฐานสำหรับอนาคตเท่านั้น ส่วนการทำให้บริษัทเติบโตได้หรือไม่นั้นจะเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะมารับช่วงต่อ" มาซาชิ มุโรมาจิ กล่าวในช่วงท้าย

ความคิดเห็น